- หน้าแรก
- โครงการพระราชดำริ (จำแนกตามวัตถุประสงค์ของโครงการ)
- โครงการตามพระราชกระแส
- โครงการจัดการป่าเสม็ดแบบครบวงจร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
โครงการจัดการป่าเสม็ดแบบครบวงจร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
โครงการจัดการป่าเสม็ดแบบครบวงจร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ความเป็นมา/ แนวพระราชดำริ
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2549 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง บ้านรอตันบาตู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส และทรงมีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับกรมป่าไม้ ดำเนินการจัดทำโครงการศึกษา ทดลอง วิจัย การปลูกไม้เสม็ดแบบครบวงจรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอนทราย และป่ากลอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อหาความเป็นไปได้ในการปลูกเสม็ด และการใช้ประโยชน์จากต้นเสม็ดแบบครบวงจร ในบริเวณพื้นที่แปลงดังกล่าว
หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา
ผลการดำเนินงาน
เนื่องจาก พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอนทราย และป่ากลอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาจึงได้ร่วมกับกรมป่าไม้ และจังหวัดนครศรีธรรมราช สำรวจหาพื้นที่ใหม่ที่มีความเหมาะสม โดยได้เลือกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่จัดทำโครงการแทน
ในปี 2553 สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม ท้องที่ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ 1,997 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา เพื่อดำเนินการโครงการศึกษา ทดลอง การปลูกและใช้ประโยชน์ไม้เสม็ดแบบครบวงจร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับแปลงปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553
ในการนี้ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ดำเนินการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม ท้องที่ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การดำเนินงานในระยะต่อไป
ดำเนินงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จภายในปี 2552 และจะวางแผนการบริหารจัดการโครงการ ต่อไป