สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สระบุรี

วันศุกร์ที่  ๒๕  มกราคม ๒๕๕๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สระบุรี บริเวณอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  เพื่อทรงตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการฯ  ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้พระราชทานพระราชกระแสให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการวางแผนพัฒนาพื้นที่ และเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน  ในที่ดินเพื่อให้เป็นศูนย์วิจัยธรรมชาติ และศูนย์กลางการเรียนรู้ครบวงจรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในการนี้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย  กรมพัฒนาที่ดิน ในการดำเนินงานตรวจสภาพดินเพื่อนำผลที่ได้มาวางแผนการเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ในพื้นที่และบริเวณรอบโครงการฯกรมชลประทาน ดำเนินการพัฒนาศักยภาพของแหล่งน้ำในพื้นที่พร้อมทั้งจัดทำแผนการจัดหาแหล่งน้ำสำรองที่จะนำมาสนับสนุนกิจกรรมของโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการฟื้นฟูสภาพป่าและอนุรักษ์แหล่งน้ำในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี  ๒๕๓๒  โดย ศ.ดร.บุญรอด  บิณฑสันต์  ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยของจุฬาฯ และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธินิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความประสงค์จะหาที่ดินบริเวณใกล้เคียงกรุงเทพฯ เพื่อขยายเขตการศึกษาหรือขยายการปฏิบัติการบางส่วนของจุฬาฯ ออกไปยังที่แห่งใหม่ หลังจากได้พิจารณาข้อมูลต่างๆ แล้วเห็นว่า พื้นที่ส่วนหนึ่งของตำบลชำผักแพว ตำบลห้วยแห้ง และตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว จึงได้ดำเนินการขอใช้ประโยชน์กับกรมป่าไม้พร้อมทั้งจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันมีเนื้อที่ในการดำเนินงานทั้งสิ้นรวม ๔,๗๑๑ ไร่  ประกอบด้วย

พื้นที่ที่จุฬาฯ สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ จำนวน ๓,๒๑๔ ไร่

๑.๑ กรมป่าไม้อนุญาตให้จุฬาฯ ใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนฯ      ๒,๖๓๒  ไร่

๑.๒ มูลนิธินิสิตเก่าจุฬาฯ มอบที่ดินให้ใช้ประโยชน์                      ๕๘๒    ไร่

                        - เป็นพื้นที่นอกเขตป่าสงวน                            ๓๗๑    ไร่

                        - เป็นพื้นที่หมดสภาพป่าสงวน                         ๒๑๑     ไร่

      

พื้นที่ที่ใช้สนับสนุนการศึกษาหรือกิจกรรมของจุฬาฯ จำนวน    ๑,๔๙๗  ไร่

๒.๒ พื้นที่ดินของมูลนิธินิสิตเก่าจุฬาฯ ใช้สนับสนุนจุฬาฯ   ๓๔๒  ไร่

๒๒ พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารใช้ประโยชน์ได้ในขอบเขตจำกัด  ๑,๑๕๕ ไร่

ปัจจุบันการดำเนินการต่างๆ คืบหน้าเป็นลำดับ อาทิ จัดทำแผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศ  จัดทำรั้ว           ลวดหนามล้อมรอบ  ความยาวทั้งสิ้น ๘,๖๐๐ เมตร  จัดตั้งคณะกรรมการวางแผนพัฒนาพื้นที่ จัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาพื้นที่  จัดสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำความจุ ๗๐๐,๐๐๐ ลบ.ม. เป็นต้น