- หน้าแรก
- ข่าว
- ข่าวสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงานโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงานโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว
วันอังคารที่ 31 สิงหาคม 2553 เวลาประมาณ 14.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ในที่นี้ นายผานิต นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เบิกพันโทนุรี เดชสอน และนางสุมิตรา เดชสอน เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายโฉนดที่ดิน เพื่อทรงใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งได้มีพระราชวินิฉัยให้ใช้ที่ดินนี้เป็นส่วนขยายการดำเนินงานของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ขึ้น เพื่อเป็นโรงเรียนฝึกกระบือและให้เกษตรกรมาใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับกระบือเพื่องานเกษตรกรรม โดยเกษตรกรจะเข้าพักอาศัยตามสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตแบบพอเพียง ปราชญ์ท้องถิ่นของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์จะเป็นผู้ฝึกกระบือให้ทำการเกษตรได้ดี และฝึกคนให้เข้าใจถึงวิธีการใช้กระบือในการทำเกษตรกรรม
เกษตรกรผู้ที่จะเข้ารับการฝึกกระบือในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จะต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจจริงในการนำกระบือไปใช้ในการเกษตรของตนอย่างจริงจัง และจะต้องเข้ามาฝึกกับครูฝึกสอนผู้ใช้กระบือของโรงเรียน ซึ่งเป็นปราญช์ชาวบ้านที่มีความชำนาญในการฝึกและควบคุมกระบือเพื่อใช้ในเกษตรกรรม นอกจากจะได้รับการอบรมการใช้กระบือทำการเกษตรแล้ว เกษตรกรจะได้รับความรู้ทั้งด้านการเลี้ยงและดูแลกระบือ การจัดการเรื่องหญ้าและอาหารกระบือ การปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสาน และการใช้ชีวิตแบบพอเพียง
ที่ผ่านมา โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ได้เปิดอบรมหลักสูตรโครงการเกษตรกรกาสรกสิกรรม สอนให้เกษตรกรให้สามารถใช้กระบือทำการเกษตร และเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีเกษตรกรเข้ารับการอบรมแล้ว 16 รุ่น เป็นเกษตรกร 106 คน กระบือ 101 ตัว และมีหลักสูตรอบรมยุวเกษตรกรกาสรกสิวิทย์ให้แก่เยาวชนในระดับชั้นมัธยมศึกษา เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับกระบือในการทำการเกษตร และได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีนักเรียนเข้ารับการอบรมแล้ว 14 รุ่น จากสถานศึกษา 18 แห่ง จำนวน 131 คน
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ปราชญ์ท้องถิ่นของโรงเรียนฯ กราบบังคมทูลรายงานเรื่องราวและการดำเนินงานของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ประกอบด้วย เรื่องการฝึกกระบือ ชีวิตคนกับควายและความเป็นอยู่ที่พอเพียง อุปกรณ์ในการทำนา ได้แก่ เรื่องราวของคันไถซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำนา รวมทั้งวิธีการสร้างบ้านดิน การใช้ประโยชน์จากดิน และต้นไม้ในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ที่ล้วนเป็นต้นไม้ที่รับประทานได้ทั้งสิ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนเก่าของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เข้าเฝ้าฯกราบบังคมทูลรายงานผลการเข้ารับการฝึกอบรมและการนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับกลับไปใช้ในท้องถิ่นของตน
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังร้านกาแฟของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ที่ได้มีพระราชดำรัสในคราวที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2552 ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งร้านค้าขึ้นเพื่อขายกาแฟ อาหาร ของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของชุมชนใกล้เคียง และได้พระราชทานชื่อว่า ร้านกาแฟ ‘ควายคะนอง’
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเปิดร้านกาแฟ ‘ควายคะนอง’ โดยทรงหมุนอุปกรณ์พื้นบ้านในการสอนเด็กหัดเดิน ขณะที่ทรงหมุน กระบือจำลองที่อยู่บนป้ายจะลากเลื่อนใส่ต้นข้าว ผ่านป้ายชื่อร้านกาแฟ ‘ควายคะนอง’ ไปกินหญ้าตรงปลายทาง
อุปกรณ์พื้นบ้านในการสอนเด็กหัดเดินนั้น เป็นไม้ไผ่ มีแกนกลาง มีตัวจับให้เดินเป็นวงกลม เพื่อพยุงไม่ให้เด็กที่หัดเดินล้ม อุปกรณ์พื้นบ้านในการสอนเด็กเดินนี้ ได้เริ่มหายไปจากสังคมท้องถิ่น เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน
ความหมายของพิธีเปิดครั้งนี้ คือ ร้านกาแฟในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์เพิ่งจะเริ่มต้นรับผู้มาเยือน เปรียบร้านเสมือนเด็กหัดเดิน เมื่อใช้อุปกรณ์หัดเดินนี้ก็จะสามารถเดินไปได้ด้วยความมั่นคง ส่วนกระบือลากเลื่อนใส่ต้นข้าวบนป้ายชื่อร้านนั้น ต้นข้าวที่กระบือลาก คือ ผลผลิตของชาวนา ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่เกิดจากการทำนา หญ้าที่อยู่ปลายทาง คือ อาหารของกระบือ สื่อถึงผลตอบแทนที่ได้รับ ทั้งหมดนี้รวมความ หมายถึง การนำพาร้านกาแฟ ‘ควายคะนอง’ ไปสู่ความสำเร็จ
นอกจากจะทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เป็นสถานที่ที่ผลิตกระบือให้มีความสามารถในการทำเกษตรกรรม และเพื่อให้เกษตรกรที่รับกระบือจากโรงเรียนไป สามารถใช้กระบือดังกล่าวทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกษตรกรได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองและการอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำริ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ดูแลสภาพแวดล้อม และรักษาธรรมชาติ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลกันสืบต่อไปแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา สร้างกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิขึ้น เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม รวมทั้งเป็นสถานที่ให้การสนับสนุนการขายผลิตผลทางการเกษตร และงานหัตถกรรมชองชุมชนในท้องถิ่นใกล้เคียงอีกด้วย