พืช
ศัพท์ควรรู้ในโครงการพระราชดำริ
ความเรียบง่าย นับว่าเป็นหลักการสำคัญของทุกแนวพระราชดำริและทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงใช้คำว่า Simplicity ที่หมายถึงความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ดังจะเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริหลายๆ โครงการที่ไม่มุ่งเน้นให้นำวิทยาการอันล้ำสมัยเข้ามาเป็นตัวช่วยหลัก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การใช้ธรรมชาติเข้าแก้ปัญหาที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องดินหรือเรื่องน้ำก็ตาม
พืชหลายชนิดที่เราพบเห็นกันทั่วไป และมักมองข้ามไม่เห็นความสำคัญ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญ และนำพืชเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้นานับประการ ในยุคน้ำมันแพงอย่างนี้ พืชที่สามารถสกัดเป็นพลังงานทดแทนที่สมัยก่อนถูกมองข้าม ตอนนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างเช่น ปาล์มน้ำมัน หรือ Oil Palm ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Elaeis guineensis Jacq. ปาล์มน้ำมันถือกำเนิดในแถบแอฟริกาตะวันตก ได้มีการปลูกอย่างจริงจังในประเทศไทยที่จังหวัดสงขลาราวปี 2472 พืชชนิดนี้ให้น้ำมันต่อพื้นที่สูง เมื่อเทียบกับพืชน้ำมันชนิดอื่น จึงทำให้น้ำมันปาล์ม มีต้นทุนการผลิตต่ำ คือต่ำที่สุดเพียงกิโลกรัมละ 10-11.50 บาทเท่านั้น ในขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองมีต้นทุนการผลิตสูงถึง กิโลกรัมละ 18 บาท
พืชน้ำมันอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจคือ สบู่ดำ ที่มีชื่อภาษาอังกฤษสามัญว่า Physic nut และชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Jatropha curcas เหตุที่คนไทยเรียกกันว่าสบู่ดำนั้นเป็นเพราะ สมัยก่อนได้มีการนำพืชชนิดนี้มาทำเป็นสบู่และก้อนสบู่มีสีดำ จึงเรียกติดปากกันว่าสบู่ดำ นอกจากนำมาทำสบู่แล้ว สบู่ดำยังให้ผลผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนภายในประเทศ ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาทดลอง ซึ่งประสบการณ์ของประเทศอินเดียอาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการใช้สบู่ดำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน
สะเดา เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่น้อยคนนักจะทราบว่าน้ำมันของสะเดาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี ถ้าพูดถึงสะเดา โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์จะหมายถึงสะเดาอินเดีย ชื่อของสะเดาชื่อแรกคือ Melia azadirachta ต่อมาในปี พ.ศ. 2373 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Azadirachta indica ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ชื่อ Azadirachta มาจากภาษาเปอร์เซียว่า Azal-darakht-I-hindi ซึ่งแปลว่า ต้นไม้ที่ไม่มีแมลงทำลายของอินเดีย (free tree of Indica) สำหรับสะเดาในประเทศไทยโดยทั่วไปนั้น ชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษ คือ Neem เห็นจากชื่อก็พอจะทราบกันบ้างแล้วว่าพืชชนิดนี้มีคุณสมบัติป้องกันแมลง น้ำมันที่ได้จากการสะกัดผลสะเดานั้นช่วยกำจัดเชื้อรา กำจัดไร เห็บ และช่วยป้องกันศัตรูพืชแทนสารเคมีได้อย่างดี
จะเห็นได้ว่าวิธีการทางธรรมชาติที่นำพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วไปมาประยุกต์ใช้นั้น ให้คุณค่าและคุณประโยชน์มากมายมหาศาลนัก ลองมองไปรอบๆ ตัว คุณอาจเห็นประโยชน์จากสิ่งที่คุณมองข้ามไปทุกวัน
ความเรียบง่ายนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ