เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานส่งมอบแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน มหาวิทยาลัยจำปาสัก และประชุมติดตามความก้าวหน้า โครงการศูนย์พัฒนาและบริการกสิกรรมแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พ ...

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วย นายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา นำคณะผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่ฯ เดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและจังหวัดยโสธร เพื่อปฏิบัติภารกิจดังนี้

วันที่ 17 กันยายน 2556 เวลาประมาณ 10.00 น. คณะฯ เดินทางถึงแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน  มหาวิทยาลัยจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งมอบแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน ตามโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา กับ มหาวิทยาลัยจำปาสัก โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานฝ่ายไทย และ ดร.สีคำตาด มิตาไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยจำปาสัก เป็นประธานฝ่ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โครงการจัดตั้งแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน เกิดขึ้นจากการที่มหาวิทยาลัยจำปาสัก ได้กราบบังคมทูลเรื่องการบริหารงานและการดำเนินการต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะปัญหาด้านการจัดการการศึกษาในเรื่องเทคโนโลยีความรู้ด้านการเกษตร ที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักศึกษาและราษฎรโดยเฉพาะเกษตรกรในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ต้องการความรู้ในเรื่องดังกล่าว ไปใช้ในการพัฒนาการเกษตรของตน ต่อมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ มูลนิธิฯ จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน ฯลฯ เพื่อจัดทำโครงการจัดตั้งแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน  ณ มหาวิทยาลัยจำปาสัก ขึ้น บนพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น งานด้านพัฒนาที่ดิน ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในแปลงฯ ล้อมรั้ว ทำถนนลูกรังบดอัด ต่อท่อระบายน้ำ และถางพื้นที่ งานชลประทาน ประกอบด้วย อาคารทดน้ำ ท่อส่งน้ำ ก่อสร้างสะพาน ถังเก็บน้ำและระบบท่อ งานด้านปศุสัตว์ ได้ทำการก่อสร้างคอกสุกร คอกเป็ด คอกไก่ โรงเก็บ และผลิตอาหารสัตว์ งานด้านประมง ดำเนินการก่อสร้างบ่อคอนกรีตและบ่อเพาะเลี้ยง โรงเก็บพัสดุ อาคารเพาะฟัก โรงสูบน้ำ งานด้านการเกษตร ได้ทำการปรับรูปแบบแปลงสาธิตการปลูกพืชชนิดต่างๆ และได้นำพืชชนิดต่างๆ มาลงปลูกในแปลง และงานก่อสร้างอาคาร ประกอบด้วย อาคารอเนกประสงค์ และหอพักนักศึกษา

ในระยะแรกของการดำเนินงาน คณะทำงานฯ ได้เดินทางเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ รวมทั้งจัดการประชุมหารือระหว่างคณะผู้บริหารฝั่งไทยและมหาวิทยาลัยจำปาสัก เป็นระยะๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานร่วมกัน เมื่อสามารถกำหนดแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนได้แล้ว มูลนิธิชัยพัฒนา และ มหาวิทยาลัยจำปาสัก จึงได้ร่วมลงนามใน “บันทึกข้อตกลงโครงการจัดตั้งแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน” ภายใต้โครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา กับ มหาวิทยาลัยจำปาสัก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550  จากนั้น คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมถึงจัดให้คณะอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจำปาสัก ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลแปลงสาธิตฯ เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการพัฒนาที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนาในเขตพื้นที่ต่างๆ เพื่อเรียนรู้ทักษะในการดูแลแปลงสาธิตฯ และเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเป็นหลักในการดูแลและรับผิดชอบแปลงสาธิตฯ ต่อไป ปัจจุบันโครงการฯ ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์ โดยแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสานฯ ได้ถูกกำหนดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยจำปาสัก รวมทั้งประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรได้เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตน และในวันที่ 17 กันยายน 2556 มูลนิธิชัยพัฒนาได้จัดให้มีพิธีส่งมอบโครงการฯ ดังกล่าว ให้กับมหาวิทยาลัยจำปาสัก อย่างเป็นทางการ เพื่อให้มหาวิทยาลัยฯ ได้เป็นแกนหลักและเป็นผู้ดูรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยโครงการฯ นี้ จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือทางวิชาการ และสัญลักษณ์แห่งไมตรีจิตระหว่างไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อไป

วันที่ 18 กันยายน 2556 เวลาประมาณ 09.30 น. คณะฯ เดินทางถึง โครงการศูนย์พัฒนาและบริการกสิกรรมแขวงสะหวันนะเขต แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อติดตามความก้าวหน้าและประชุมวางแผนการดำเนินโครงการฯ โดยโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยดำริของเจ้าแขวงสะหวันนะเขต (ท่านวิไลวัน พมเข) ซึ่งได้มีหนังสือขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและบริการความรู้ทางด้านการกสิกรรม ในลักษณะเดียวกับโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว เวียงจันทน์ ต่อมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานความร่วมมือในการจัดตั้งโครงการดังกล่าว ในการนี้ สมเด็จพระเทพฯ ทรงมอบหมายให้มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นหน่วยงานหลักในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาและบริการกสิกรรม แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อวางศิลาฤกษ์โครงการฯ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2555 และเมื่อศูนย์ฯ ดังกล่าว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์และแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ราษฎรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรเป็นหลัก จะได้มีสถานที่ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาที่ดิน ด้านการประมง ด้านการเพาะปลูก ด้านปศุสัตว์ และด้านชลประทาน ฯลฯ และความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานนั้น จะนำมาสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น

ต่อมาเวลา 15.30 น. คณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการพัฒนาพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนาบ้านกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เพื่อรับมอบรถแทรกเตอร์ ขนาด 49 แรงม้า จำนวน 1 คัน เพื่อใช้ในโครงการฯ ซึ่งรถแทรกเตอร์ดังกล่าวเป็นรถแทรกเตอร์ที่ บริษัท ยันม่าร์ ประเทศไทย มอบให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารฯ มีความประสงค์น้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาที่ดินต่างๆ

ทั้งนี้ ธนาคารฯ ได้มอบหมายให้นายพงษ์เทพ รัตนธาดากุล ผู้บริหารของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นผู้ส่งมอบรถไถดังกล่าวให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา โครงการพัฒนาพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนาบ้านกุดแห่ฯ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ดำเนินการพัฒนาที่ดินโดยจัดทำเป็นแปลงเกษตรผสมผสาน เน้นการเพิ่มศักยภาพในด้านการเพิ่มผลผลิต ทั้งด้านพืช  ปศุสัตว์ และประมง เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร ประกอบด้วยแปลงกิจกรรมนาข้าว  กิจกรรมไม้ผล กิจกรรมไม้ดอก และกิจกรรมการปลูกยางพารา ฯลฯ