- หน้าแรก
- ข่าว
- ข่าวสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานแปลงปลูกข้าวเกษตรกรที่ได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว ณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานแปลงปลูกข้าวเกษตรกรที่ได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว ณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
วันอังคารที่ 22 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 13.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง ตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อทอดพระเนตรแปลงนาข้าว ของเกษตรกรที่ได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว ในการนี้ ผู้อำนวยการสำนักชลประทาน 17 กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าในการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานแก่เกษตรกร ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี และโครงการในเขตลุ่มน้ำโกลก จังหวัดนราธิวาส
จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการการให้ความช่วยเหลือราษฎร ในเขตพื้นที่ภาคใต้ของมูลนิธิชัยพัฒนา และทรงรับฟังบรรยายสรุปการจัดหาพื้นที่ เพื่อทดสอบพันธุ์ข้าวตามพระราชกระแส จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา และผลการดำเนินงานการปลูกข้าวจากกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ได้เกิดลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ก่อให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้เกิดน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา จึงได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว และเมล็ดพันธุ์ผักจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ เพื่อช่วยเหลือราษฎรเป็นการเร่งด่วน
โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ได้ทำพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 จำนวน 24.5 ตัน และพันธุ์ข้าว กข. 29 จำนวน 1.5 ตัน ให้แก่เกษตรกรในเขต อำเภอมายอ อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนะเระ อำเภอหนองจิก และอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี จำนวน 1,120 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูก 3,500 ไร่ โดยหลังจากเกษตรกรได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว ในเบื้องต้นได้ร่วมกันตกกล้า ในแปลงนารวม จากนั้นนำต้นกล้าที่ได้ไปแจกจ่ายต่อให้เกษตรกรปลูกโดยวิธีปักดำ ทำให้สามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกจากเดิม 3,500 ไร่ เป็น 5,000 ไร่ เกษตรกรมีความพึงพอใจในผลผลิตที่ได้ โดยเฉพาะข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีลำต้นแข็งแรงต้านแรงลม มีการแตกกอดี คาดว่าจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ประมาณปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม นี้
ในส่วนของจังหวัดนราธิวาส ได้ทำพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานตามความต้องการของเกษตรกร ประกอบด้วยข้าวพันธุ์พิษณุโลก 2 และพันธุ์ กข. 29 โดยแบ่งเป็นพันธุ์พิษณุโลก 2 จำนวน 9,000 กิโลกรัม และพันธุ์ข้าว กข. 29 จำนวน 3,500 กิโลกรัม พระราชทานแก่เกษตรกร ตำบลโฆษิตและตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 222 ราย พื้นที่เพาะปลูก 1,244.75 ไร่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ประมาณปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม นี้
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเกี่ยวข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 ในแปลงนาเกษตรกร หมู่ 2 ตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งทอดพระเนตรการเกี่ยวข้าวแบบโบราณด้วยแกระ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของเกษตรกรภาคใต้ “แกระ” เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเก็บเกี่ยวข้าวของภาคใต้ การใช้แกระเกี่ยวข้าวนั้นทำโดยการเอาแกระใส่เข้าระหว่างนิ้วนางและนิ้วกลาง ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งจับระหว่างรวงข้าว แล้วเอารวงข้าวมาทาบกับคม ของแกระ และใช้คมแกระตัดที่คอรวงข้าวแต่ละรวง ส่วนมือที่ว่างก็ใช้เก็บรวงข้าวที่ตัดแล้วจนเต็มกำมือ เมื่อข้าวเต็มกำมือก็นำมาวางไว้ในที่แห้ง เมื่อได้ข้าวพอประมาณก็นำมาผูกรวงให้แน่นทำเป็นเลียงข้าว เพื่อที่จะนำไปเก็บไว้ในลอมข้าวต่อไป แกระเป็นเครื่องมือที่ไม่มีความซับซ้อน ใช้งานง่าย และเก็บรักษาง่าย แต่ในปัจจุบันการใช้แกระนั้นลดน้อยลงไปจนแทบไม่มีให้เห็น เนื่องจากมีเครื่องจักรเข้ามาแทนที่