สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยฯ จังหวัดเพชรบุรี

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ในโอกาสนี้ ได้พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนการดำเนินโครงการฯ ณ อาคารศูนย์บริการวิชาการ จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารศูนย์เรียนรู้นานาชาติ และลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก

อาคาร ศูนย์เรียนรู้นานาชาติ เป็นอาคาร 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 2,600 ตารางเมตร ใช้สำหรับการจัดฝึกอบรมหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อาคารประกอบด้วย บริเวณชั้น 1 มีห้องบรรยาย จำนวน 2 ห้อง และห้องอาหาร ชั้น 2 มีห้องปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 4 ห้อง ชั้น 3 ถึง 5 เป็นห้องพักสำหรับผู้เข้าอบรม สามารถรองรับได้ 104 ท่าน นอกจากนี้ บริเวณชั้น 5 ยังมีห้องบรรยายขนาดใหญ่ขนาด 60 ที่ สามารถมองทิวทัศน์ได้ 180 องศา

จากนั้น ทรงรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ ด้านต่างๆ อาทิ เรื่อง ผลการจัดประชุมนานาชาติ การดำเนินโครงการวิจัยและหลักสูตรฝึกอบรม จากโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยฯ การก่อสร้างอาคารศูนย์เรียนรู้ โดยกรมการทหารช่าง การซ่อมแซมและบำรุงรักษาพื้นที่โครงการฯ โดยกรมชลประทาน และแผนการปรับปรุงระบบไฟฟ้าพื้นที่โครงการฯ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากนั้นเสด็จฯ ไปยังชั้น 2 ทรงเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ด้านเคมี และชีววิทยา

เวลาต่อมาเสด็จฯ โดยรถพ่วงพระที่นั่งไปยังศาลาทัศนาปักษี ทรงฟังบรรยายเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธี ทางธรรมชาติตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว ผู้อำนวยการโครงการฯ และการตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดย ผศ.ดร. สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม และทรงปล่อยปลานิลและปลายี่สกเทศ จำนวน 60 ตัว สู่บ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ในการควบคุมปริมาณสาหร่ายในระบบบำบัดให้มีปริมาณ เหมาะสม

ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยฯ พบว่าประชาชนโดยรอบพื้นที่โครงการฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการดำเนินโครงการฯ ไม่ต่ำกว่า ปีละ 100 ล้านบาท หรือรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนวันละ 1,600 บาท ซึ่งเป็นรายได้จากการจับสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งโครงการฯ อาทิ ปลากุเรา ปลาทู ปลากระบอก ปลาดุกทะเล ปลากระเบน ฯลฯ สัตว์น้ำกลุ่มมีเปลือก เช่น ปูม้า ปูทะเล แมงดาทะเล กั้งตั๊กแตน กุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว หอยตลับ หอยแครง หอยเสียบ หมึก และหมึกสาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของสภาพพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติของโครงการฯ ที่เพิ่มขึ้นปีละ 19.5 ไร่ ทำให้สัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งแหลมผักเบี้ย มีชนิดและความชุกชุมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถพบชนิดสัตว์น้ำถึง 300 ชนิด และมีนกอพยพ และนกประจำถิ่นในพื้นที่โครงการฯ และบริเวณแหลมผักเบี้ยมากกว่า 280 ชนิดปัจจุบันโครงการฯ เป็นแหล่งดูนกระดับโลก มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ สำหรับนกอพยพที่หายาก อาทิ นกพงปากยาว นกกรีดน้ำ นกอีเสือหลังแดงตะโพกเทา ฯลฯ ถือได้ว่าบริเวณชายฝั่งพื้นที่โครงการฯ มีความอุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง

ทั้งนี้ โครงการฯ ได้จัดกิจกรรมการบริการวิชาการ ได้แก่ การบรรยายเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ การเที่ยวชมพื้นที่โครงการฯ การศึกษาระบบนิเวศน์ป่าชายเลนตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมพิเศษในการดูนกในพื้นที่ป่าชายเลนในช่วงฤดูหนาว โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอเข้าชมโครงการ ได้ที่ www.lerd.in.th หรือ โทร 032-441-265