- หน้าแรก
- ข่าว
- ข่าวสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงาน ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงาน ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 เวลา 8.40 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงกลุ่มผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ ตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ เกิดขึ้นจากการที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสำรองพันธุ์ข้าวหอมมะลิ ให้มีคงไว้ ในกรณีที่ประเทศมีภาวะฉุกเฉินหรือประสบภัยที่ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิประสบปัญหา ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่จะหาพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ดีมีคุณภาพมาทดแทนให้เกษตรกรได้ยาก โดยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เกิดอุทกภัยขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตระหนักว่า อุทกภัยครั้งนี้ ได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด เป็นระยะเวลายาวนาน และทรงทราบว่าราษฎรในพื้นที่อำเภอลำปลายมาศ และอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อน น้ำท่วมบ้านและที่นาเสียหาย ทรงห่วงใยว่า ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราษฎรมีรายได้หลักจากการทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะปลูกได้เพียงปีละหนึ่งครั้ง เมื่อประสบอุทกภัย ราษฎรจึงสูญเสียรายได้หลักทั้งปีของตนไป
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้พระราชทานพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 185.6 ตัน ที่มูลนิธิชัยพัฒนามีสำรองไว้ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ แก่ราษฎรในอำเภอลำปลายมาศ และอำเภอชำนิ ที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 953 ราย พื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วมเสียหายรวมทั้งสิ้น 12,373 ไร่ และได้มีรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนา ชักชวนราษฎรอำเภอลำปลายมาศ และอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์เข้าร่วมโครงการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดี สะสมสำรองไว้สำหรับพระราชทานราษฎรในยามวิกฤต
ราษฎรในชุมชนตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ ในปี 2557 ตั้งคณะกรรมการบริหารงานภายในกลุ่ม เพื่อดำเนินกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพ มีคณะกรรมการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว ช่วยดูแลกันและกันตั้งแต่ในแปลงนาจนถึงการเก็บเกี่ยว ปลูกโดยวิธีปักดำเท่านั้น เก็บเกี่ยวด้วยมือหรือรถเกี่ยวข้าวที่สะอาด เพื่อป้องกันการปนของข้าวพันธุ์อื่นหรือข้าวเมล็ดแดง
กรรมการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ประธานกลุ่ม สมาชิกกลุ่ม และเจ้าของแปลงนา ร่วมกันตรวจแปลงนาและตรวจสอบพันธุ์ข้าวที่เก็บเกี่ยวขึ้นมาจากแปลงนา การตรวจสอบจะสุ่มตัวอย่างข้าว 1 กิโลกรัม เพื่อวัดความชื้นและตรวจสอบหาข้าวปน ทดสอบเช่นนี้ 2 ครั้ง โดยราคาพันธุ์ข้าวที่ได้มาตรฐานเข้าเกณฑ์เป็นข้าวพันธุ์พระราชทานของมูลนิธิชัยพัฒนาจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นจากราคาข้าวของกรมการค้าภายใน เพื่อเป็นรางวัลในการผลิตข้าวอย่างประณีตและมีคุณภาพ
ในปี 2558 กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ ตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ผลิตพันธุ์ข้าวผ่านเกณฑ์เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน ได้ 28 ตัน 64 กิโลกรัม และในปี 2559 ผลิตพันธุ์ข้าวผ่านเกณฑ์เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน ได้ 89 ตัน กับ 242 กิโลกรัม ในวันนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถารและมีรับสั่งให้กำลังใจแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยทรงทราบว่า การผลิตพันธุ์ข้าวที่ดีมีคุณภาพ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความมานะอดทน ต้องมีความละเอียดประณีตในการผลิตทุกขั้นตอน นับแต่การเตรียมดิน การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ การปลูกด้วยการปักดำ การดูแลเอาใจใส่ในการกำจัดวัชพืชและข้าวปน รวมทั้งการใส่ใจในการเก็บเกี่ยวและการขนส่ง เพื่อให้ข้าวมีคุณภาพดี จนกระทั่งขั้นตอนสุดท้ายที่ส่งมอบมายังมูลนิธิชัยพัฒนา
จุดที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ในปี 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา โดยศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จัดตั้ง ‘โครงการทหารพันธุ์ดี’ ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมให้กำลังพลของกองทัพมีความรู้ความสามารถในการปลูกผักปลอดภัย และมีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อบริโภค เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน หากเหลือจากการบริโภคแล้ว สามารถจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกด้วย โดยจัดกิจกรรมให้พลทหารกองประจำการในแต่ละผลัดอาสาเข้าร่วมโครงการหลังจากที่ผ่านการฝึกทางการทหารแล้ว
พลทหารกองประจำการที่เข้าร่วมโครงการจะเรียนรู้วิธีการปลูกผักปลอดภัยในแปลงเกษตรของมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ตั้งแต่การเตรียมแปลง การหว่านหรือการเพาะกล้า ไปจนกระทั่งการเก็บเกี่ยวทำความสะอาด จนกระทั่งการจำหน่ายเข้าโรงเลี้ยงของค่าย หรือนำออกจำหน่ายสู่ตลาดในท้องถิ่นใกล้เคียง
ในการเริ่มต้นการดำเนินงาน โครงการทหารพันธุ์ดีได้รับพระมหารุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพ สามารถเก็บเมล็ดปลูกต่อได้ จากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ
โครงการทหารพันธุ์ดี จะรับสมัครพลทหารกองประจำการ ผลัดละประมาณ5-10 นาย ตามความเหมาะสม เข้าประจำแปลงผัก เรียนรู้การปลูกผักปลอดภัย โดยมีครูฝึกที่ได้เข้าฝึกอบรมที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงรายเป็นผู้ถ่ายทอด และมีศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย เป็นพี่เลี้ยง
ในอนาคต โครงการทหารพันธุ์ดีมีแผนที่จะติดตามการขยายผลโครงการของพลทหารที่ปลดประจำการไปยังชุมชนบ้านเกิดของตน และมอบรางวัลแก่ผู้ที่มีผลงานขยายผลโครงการไปยังชุมชนบ้านเกิดด้วย
ในการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนี้ ได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ผัก ไก่พื้นเมืองและไก่กระดูกดำ และทรงปล่อยปลานิลจิตรลดา จำนวน 90,000 ตัว ในสระน้ำภายในค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
การจัดตั้ง ‘โครงการทหารพันธุ์ดี’ ของมูลนิธิชัยพัฒนากับมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก นับเป็นนิมิตหมายอันดี ในการร่วมมือและรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ปฎิบัติงานสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประเทศไทยผลิตพืชอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสืบต่อไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรของชาวไทยให้มีความมั่นคงด้านอาหาร นับเป็นการสร้างความมั่นคงภายในประเทศอีกทางหนึ่ง