เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 นายเทอดศักดิ์ บุณยขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแหล่งน้ำมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี แก่เกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดพัทลุง ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง
สืบเนื่องจากการที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานความช่วยเหลือ แก่เกษตรกรในเขตอำเภอชัยบุรี จังหวัดพัทลุง ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมโดยได้พระราชทานพันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์ แก่เกษตรกรเพื่อนำไปใช้ในการเพาะปลูก จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้รับทราบข้อมูลจากเกษตรกรว่าเมล็ดข้าวพันธุ์ดังกล่าวมีอัตราการงอก 90 เปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 900- 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดข้าวเรียวยาว มีกลิ่นหอม มีเปอร์เซ็นต์เมล็ดข้าวลีบน้อยมาก ทำให้ราษฎรมีความต้องการ ข้าวหอมชลสิทธิ์เป็นจำนวนมาก และโรงสีก็มีความต้องการซื้อข้าวหอมชลสิทธิ์ไปจำหน่ายด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ขยายวงกว้างออกไปยังกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ในเขตจังหวัดพัทลุง พร้อมกับมีความประสงค์ขอรับพระราชทานพันธุ์ข้างหอมชลสิทธิ์มายังสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์ ซึ่งได้รับการน้อมเกล้าฯ ถวาย จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และกลุ่มสหกรณ์การเกษตรผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 ตัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ขาวหอมชลสิทธิ์ นำไปแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรในจังหวัดพัทลุง ต่อไป
ข้าวหอมชลสิทธิ์ เป็นผลงานวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (Biotec) สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้ทนต่อสภาพน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นลูกผสมของข้าวทนน้ำท่วมกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีคุณสมบัติการหุงต้มแบบข้าวขาวดอกมะลิ เมล็ดข้าวมีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ทั้งปี และทนอยู่ใต้น้ำได้นานถึง 2 สัปดาห์ จึงเหมาะกับพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ง่าย อีกทั้งทนต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคข้าวบางชนิดด้วย