วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 16.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงาน “ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน” มูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ในปี 2564 ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน ได้รับผลผลิตเมล็ดชาจากแปลงปลูกชาน้ำมัน เขตปูนะและปางมะหัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 123,863.79 กิโลกรัม สามารถนำมาหีบน้ำมันเมล็ดชาได้ประมาณ 27,000 ลิตร โดยน้ำมันเมล็ดชาที่ผลิตได้เหล่านี้เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยโอเมก้า 3, 6 และ 9 รวมทั้งสามารถนำไปประกอบอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง นอกจากนี้เมล็ดชายังสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ โลชั่นบำรุงผิว แฮร์โทนิค ครีมอาบน้ำ ฯลฯ
ด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ของศูนย์ฯ ในปี 2564 ทรงมีพระราชานุมัติให้ปรับชื่อจากน้ำมันเมล็ดชาเป็น “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย” เพื่อให้มีความเป็นสากลเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือลดความสับสนในกลุ่มผู้บริโภคที่เข้าใจว่าน้ำมันเมล็ดชาคือชาชงดื่ม พร้อมทั้งได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้วเหลี่ยมใสเป็นขวดแก้วกลมสีชา เพื่อลดการสัมผัสแสงป้องกันไม่ให้น้ำมันเกินการออกซิไดซ์และสลายตัว และจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ เพื่อทรงเปิดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 นี้
ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันฯ เริ่มดำเนินการในปี 2554 โดยจัดตั้งเป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์ Camellia oleifera และพืชน้ำมันอื่นๆ เพื่อผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภค และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันที่ผลิตได้ โดยมีพระราชดำริให้โรงงานแห่งนี้เป็นต้นแบบซึ่งมีขั้นตอนการผลิตที่เข้าใจง่าย ถูกสุขอนามัย และรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถมองเห็นทุกขั้นตอน รวมทั้งมีส่วนผลิตผลิตภัณฑ์จากกากวัตถุดิบที่เหลือ เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกส่วนของพืชนั้นๆ