วันที่ 3 ธันวาคม 2555 เวลา 15.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา หมู่ 6 บ้านตะพังโคลน ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทอดพระเนตรกระบวนการจัดทำแปลงสาธิตการทำนาในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา
บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ตามโครงการนำร่องการลด ละ เลิกการใช้สารเคมีในแปลงนา นำไปสู่กระบวนการผลิตข้าวที่ดี (GAP) ได้มาตรฐานข้าวปลอดภัยจากสารพิษ จากนั้นทอดพระเนตรแปลงสาธิตการกำจัดหอยเชอรี่ด้วยกากชาตามพระราชกระแส โดยเบื้องต้นได้ทำการทดลองจำนวน 3 แปลง ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก อยุธยา และนครนายก เป็นเวลา 1 ปี พบว่าหากใช้กากชาในปริมาณที่เหมาะสมสามารถกำจัดหอยเชอรี่ได้เป็นอย่างดี ในการนี้ทรงเกี่ยวข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี 1 ในแปลงนาบริสุทธิ์ พระราชทานแก่ผู้แทนเกษตรกร ให้นำไปปลูกในแปลงนาของตนเอง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อไป
จากนั้น เวลา 16.15 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงสีข้าวมูลนิชัยพัฒนา (ศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนแบบครบวงจร) อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดโรงสีข้าวฯ ด้วยวิธีกดปุ่มหม้อหุงข้าวโดยข้าวที่ใช้หุงเป็นข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี 1 ซึ่งเป็นข้าวที่ปลูกตามโครงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมี และผ่านการสีโดยโรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา ในการนี้ทรงรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานการก่อสร้างโรงสีข้าว การดำเนินงานของกรมพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยเน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ผลิตข้าวพันธุ์ดี และพัฒนาต่อยอดออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตสารชีวภัณฑ์ กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว และกลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรจากแปลงนา ได้แก่ พืชผักสมุนไพร และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำพริก เป็นต้น
จากนั้นทอดพระเนตรการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์จากข้าว ได้แก่ ไอศกรีมข้าวกล้องงอก น้ำข้าวกล้องงอก และชาข้าวกล้องคั่ว ซึ่งเป็นแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำข้าวจากแปลงสาธิตตามโครงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และได้มีการจัดอบรมให้กับชุมชนบริเวณใกล้เคียงโรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา ด้วยการเน้นให้ชาวบ้านสามารถทำเองได้ รวมถึงสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมและสร้างรายได้ช่วยให้คนในชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ได้มีการนำข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี 1 จากแปลงนาสาธิตตามโครงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีมาผลิตเป็นข้าวปรุงรสบรรจุกระป๋อง ขนาด 150 กรัม ซึ่งสามารถเปิดรับประทานได้ทันที ประกอบด้วย 4 รสชาติ คือ ข้าวผัดกระเพราปลาซาร์ดีนทอด ข้าวผัดหนำเลี้ยบปลาซาร์ดีนทอด ข้าวผัดเผ็ดปลาซาร์ดีนทอด และข้าวราดปลาซาร์ดีนผัดกระเทียมพริกไทย รวมถึงข้าวสุกบรรจุกระป๋อง ซึ่งทั้งหมดมีแผนที่จะจำหน่ายผ่านร้านภัทรพัฒน์ ของมูลนิธิชัยพัฒนาต่อไป
พร้อมกันนี้ได้ทรงรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการข้าวสร้างสุข จากบริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ในการนำข้าวจากโครงการ ลด ละ เลิกการใช้สารเคมี และสีโดยโรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา ไปจำหน่ายช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการจำหน่ายผ่านร้านภัทรพัฒน์ของมูลนิธิชัยพัฒนา
จากนั้นเสด็จทรงกดปุ่มเครื่องจ่ายไฟฟ้า ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่ผลิตจากแกลบด้วยระบบ Gasification ทำให้ได้พลังงานไฟฟ้าชีวมวล (Gasifiler) เพื่อนำไปใช้ในการเดินเครื่องยนต์และผลิตกระแสไฟฟ้านำกลับมาใช้ในโรงงาน รวมถึงเพื่อจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และทอดพระเนตรระบบการทำงานภายในโรงสีข้าว ขั้นตอนการสีข้าว รวมถึงระบบการผลิตน้ำมันจากรำข้าวซึ่งรำข้าว 100 กิโลกรัมสามารถผลิตน้ำมันได้ 1.8 กิโลกรัม
โครงการศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนจากข้าวแบบครบวงจร เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับกระทรวงพลังงาน เครือเจริญโภคภัณฑ์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดทำขึ้น ณ ที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้พระราชทานนามโครงการนี้ว่า “โรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา” (ศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนแบบครบวงจร) เพื่อรองรับผลผลิตจากโครงการแปลงสาธิตการทำนาในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โรงสีข้าวแห่งนี้นอกจากจะดำเนินการสีข้าวแล้ว ที่สำคัญยังมีการจัดการข้าวอย่างมีระบบ โดยนำวัสดุเหลือใช้จากทุกขั้นตอนมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ซึ่งทุกกระบวนการผลิตจะนำเอาสิ่งที่เหลือใช้จากกระบวนการการสีข้าวทุกชนิด ไปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ การนำข้าวหักและปลายข้าวไปทำผลิตภัณฑ์โจ๊กสำเร็จรูป นำรำข้าวไปหีบทำเป็นน้ำมันรำข้าวบริสุทธิ์ นำแกลบไปเข้าระบบ Gasification เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และนำขี้เถ้าแกลบไปใช้ผสมกับดินเพื่อใช้ในการเพาะปลูก เป็นต้น