วัดสองแพรก ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วัดสองแพรก ตำบลไทรทอง

อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ได้รับพระราชานุมัติ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

เรื่องเดิม

              พระครูกิตติธรรมชัย เจ้าอาวาสวัดสองแพรก ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ขออนุญาตนำแบบพระอุโบสถวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร นำไปใช้เป็นต้นแบบในการก่อสร้างอุโบสถที่วัดสองแพรก ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านการประกอบศาสนพิธีของวัด และทดแทนอุโบสถหลังเก่าที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม

ข้อเท็จจริง

               สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของวัดสองแพรก ซึ่งตั้งอยู่ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้ไปพบกับเจ้าอาวาสของวัดสองแพรก เพื่อรับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยมีรายละเอียด ดังนี้

สถานที่ตั้ง วัดสองแพรก ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๕ หมู่ที่ ๒ ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัด      สุราษฎร์ธานี เป็นวัดเก่า สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๘ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ ต่อมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือรับรองสภาพวัดสองแพรก ตามมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕

                      ๒. เนื้อที่วัด วัดสองแพรกมีเนื้อที่รวมประมาณ ๒๒ ไร่ ๑ งาน ๕๙ ตารางวา โดยมีโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๗๔ เล่ม ๒๓ หน้า ๗๔ เลขที่ดิน ๑๒ หน้าสำรวจ ๔๒๓ โดยมีพระครูกิตติธรรมชัย อายุ ๕๓ ปี พรรษา ๕ ปี เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ จนถึงปัจจุบัน รวม ๙ ปี ๑๐ เดือน มีพระจำพรรษาประจำ ๗ รูป แม่ชี ๒ รูป

                   ๓. สิ่งก่อสร้างภายในวัด ภายในวัดสองแพรก มีสิ่งก่อสร้างภายในวัด ได้แก่ ศาลาการเปรียญ จำนวน ๑ หลัง ศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ จำนวน ๑ หลัง กุฏิพระสงฆ์ จำนวน ๘ หลัง โรงฉัน จำนวน ๑หลัง ห้องสุขา จำนวน ๒ หลัง ประปาหมู่บ้าน จำนวน ๑ หลัง หอระฆัง จำนวน ๑ หลัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๑ หลัง และอุโบสถหลังเก่า จำนวน ๑ หลัง ปัจจุบัน วัดสองแพรก มีอุโบสถหลังเก่าซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงได้มีโครงการที่จะดำเนินการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ เพื่อใช้เป็นที่ประกอบกิจกรรมของสงฆ์ แทนที่อุโบสถหลังเดิม

๔. วัดสองแพรก เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลไทรทองในด้านต่างๆ เช่น ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของชุมชน เป็นต้น นอกจากนี้ ชาวบ้านในชุมชนมีความพร้อมที่จะช่วยกันร่วมทำบุญในการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ในครั้งนี้ จนกว่าจะแล้วเสร็จ