สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงติดตามการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาในเขตจังหวัดยโสธร

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงาน โครงการสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน มูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร โดยมี เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เฝ้ารับเสด็จฯ

โครงการสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน มูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นโครงการที่ดำเนินงานตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา โดยการจัดรูปแบบที่ดินให้เป็นแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรนำไปใช้ในที่ดินของตนเอง

แต่เดิมที่ดินผืนดังกล่าวนี้ เป็นของศาสตราจารย์มนู อมาตยกุล ซึ่งได้ทำพินัยกรรมมอบกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 60 ไร่ 1 งาน 45 ตารางวา เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิชัยพัฒนา

การดำเนินงานในระยะแรก จังหวัดยโสธรได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตดำเนินงานพัฒนาที่ดิน โดยการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและปรับพื้นที่เพื่อใช้ในการเกษตร และให้องค์การบริหารส่วนตำบลกุดแห่เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการโครงการ จากนั้น สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาจึงได้เข้ามารับช่วงการดำเนินงานต่อไป

การดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานจากจังหวัดยโสธร อำเภอเลิงนกทา อบต.กุดแห่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร และกรมประมง เป็นต้น ได้ร่วมกันจัดทำแผนงานและปรับปรุงสภาพพื้นที่ ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ต้นปี 2553 โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน สำหรับทำการเกษตร ดังนี้

ส่วนที่ 1 จัดแบ่งพื้นที่ 10 ไร่ จัดทำแปลงในรูปแบบการเกษตรแบบผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแก่ราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบด้วย แปลงนาและพืชหลังนา เช่น ฟักทองและข้าวโพด ไม้ดอกไม้ประดับ ได้แก่ พุดมาลัย แปลงผัก เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักกวางตุ้งดอก ผักกาดเขียวน้อย บวบ และแตงกวา ไม้ผล ได้แก่ แก้วมังกรและฝรั่งพันธุ์กลมสาลี่ ซึ่งทำให้มีพืชผักบริโภคได้ตลอดทั้งปี เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและยังทำให้มีรายได้เพิ่มจากการนำผลผลิตไปจำหน่ายได้อีกด้วย ในส่วนสระเก็บน้ำขนาดเล็ก ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่รอบขอบสระเก็บน้ำ โดยการจัดทำเป็นคอกหมูหลุมและคอกเป็ดเทศ โดยให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของผู้ชำนาญการด้านการเกษตรของมูลนิธิชัยพัฒนา

ส่วนที่ 2 พื้นที่ในส่วนที่เหลือ ดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นผลผลิตและรายได้ เพื่อนำมาเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของโครงการฯ ได้แก่ การเลี้ยงโค ไก่ดำ การปลูกไม้ผล เช่น มะนาวพันธุ์แป้นรำไพ น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่อง ขนุนพันธุ์ทองสุดใจ มะม่วงแก้ว และมะขามเปรี้ยวยักษ์ เป็นต้น การปลูกยางพาราและหวาย นอกจากนี้ มีการใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์มาทำเป็นปุ๋ย

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา