วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พระราชดำเนินยัง พื้นที่ป่าสงวนม่อนทุ่งช้าง หมู่ที่ 5 บ้านแม่เฉย ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้ประสานกับจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อจัดหาพื้นที่รองรับราษฎรที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพื้นที่โครงการ โดยได้ก่อสร้างบ้านพักถาวรให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง 27 หลังคาเรือน พร้อมทั้งรื้อย้ายราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่บ้านน้ำริดและรื้อย้ายจากพื้นที่เสี่ยงภัย 18 หลังคาเรือน รวมทั้งได้จัดเตรียมหาพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรองรับปัญหาภัยพิบัติโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพในพื้นที่โครงการฯ โดยการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นและพืชผักสวนครัว โครงการส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัวแก่ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม ทำให้ราษฎรมีทางเลือกและมีอาชีพเสริมเพิ่มเติมจากที่เคยปลูกพืชสวน ซึ่งเป็นพืชเกษตรเชิงเดียว เป็นการลดความเสี่ยงในการทำการเกษตร และได้ให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ถนนคอนกรีต รางระบายน้ำ ไฟฟ้า และระบบประปา อีกด้วย
พร้อมนี้ ได้พระราชทานชื่อใหม่แก่หมู่บ้านแห่งนี้ว่า "หมู่บ้านชัยพัฒนา (บ้านม่อนทุ่งช้าง)"
จากนั้น เสด็จฯ ไปยัง พื้นที่โครงการบ้านม่อนหัวฝาย หมู่ที่ 11 บ้านแม่เฉย ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้ประสานกับจังหวัดอุตรดิตถ์ในการจัดหาพื้นที่รองรับราษฎรที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าว โดยได้ก่อสร้างบ้านพักถาวรให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง 15 หลังคาเรือน ช่วยเหลือในการรื้อย้ายราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย 63 ครัวเรือน โครงการฯ ยังให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพ โดยการจัดการฝึกอบรมด้านการเกษตรให้ราษฎร ได้แก่ โครงการส่งเสริมการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นและพืชผักสวนครัวให้แก่เกษตรกร และโครงการส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังได้ขยายเขตไฟฟ้าในเขตพื้นที่โครงการฯ ทำให้ราษฎรมีขวัญและกำลังใจดีขึ้น ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตและชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
พร้อมนี้ ได้พระราชทานชื่อใหม่แก่หมู่บ้านแห่งนี้ว่า "หมู่บ้านชัยพัฒนา (บ้านม่อนหัวฝาย)"
จากนั้น เสด็จฯ ไปยัง โครงการซ่อมแซมฝายห้วยฝางใหญ่ หมู่ที่ 5 บ้านขุนฝาง ตำบลขุนฝาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ การดำเนินงานในพื้นที่แห่งนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากโคลนถล่ม โดยการพัฒนาปรับปรุงและก่อสร้างเหมืองฝายและอ่างเก็บน้ำ พร้อมทั้งจัดทำระบบชลประทานขนาดเล็ก ในเขตพื้นที่ 3 ลุ่มน้ำในจังหวัดอุตรดิตถ์ ประกอบด้วย ลุ่มน้ำห้วยปู่เจ้า ลุ่มน้ำห้วยขุนฝาง และลุ่มน้ำห้วยแม่เฉย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2553 ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถทำการเกษตรและใช้ประโยชน์อื่นๆ ในพื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสามารถบรรเทาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ต่อมา เสด็จฯ ยังโครงการพื้นที่สาธารณะประโยชน์บ้านกิ่วคอควาย บ้านกิ่วคอควาย หมู่ที่ 5 ตำบลขุนฝาง อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้ประสานกับจังหวัดอุตรดิตถ์ในการจัดหาพื้นที่รองรับราษฎรที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าว โดยสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนับสนุนการก่อสร้างบ้านพักถาวรของมูลนิธิชัยพัฒนาให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง 8 หลังคาเรือน ช่วยเหลือในการรื้อย้ายราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย 10 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ ยังได้ช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภคในด้านต่างๆ ได้แก่ การปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างบ้านพักถาวรของมูลนิธิชัยพัฒนา การขยายเขตไฟฟ้า และการสร้างถนนเข้าพื้นที่บ้านพัก
พร้อมนี้ ได้พระราชทานชื่อใหม่แก่หมู่บ้านแห่งนี้ว่า "หมู่บ้านชัยพัฒนา (บ้านกิ่วคอควาย)"