เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 เวลา 08.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านส้านแดง หมู่ 11 ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ทอดพระเนตรและเยี่ยมชมโครงการต่างๆของโรงเรียน อาทิ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โครงการฝึกอาชีพนักเรียน กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน เป็นต้น
ในการนี้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านส้านแดง ได้ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิชัยพัฒนา ในการสร้างคันกั้นน้ำล้อมรอบโรงเรียน เพื่อป้องกันน้ำท้วมในช่วงน้ำไหลหลากจนทำให้เกิดความเสียหาย สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน โดยให้กรมชลประทานดำเนินการสร้าง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางโรงเรียน ต่อไป
เวลา 16.10 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังห้องประชุมชัยพฤกษ์ โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักศึกษาทุนพระราชทานของมูลนิธิชัยพัฒนาเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายผลการศึกษา และนักศึกษาใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายตัว ซึ่งนักศึกษาทุนพระราชทานนี้ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการจัดทำโครงการศึกษานำร่องด้านการสนับสนุนทุนการศึกษาสาขาวิชาสาธารณสุขให้แก่นักเรียนในเขตจังหวัดพังงา เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยเน้นนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถทางวิชาการพอที่จะเรียนได้ ซึ่งสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ในการสอบคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมามีนักศึกษาทุนพระราชทานจบการศึกษาสาขาพยาบาลศาสตร์ไปแล้ว 6 ราย และได้บรรจุเข้ารับราชการตามข้อตกลงกับกระทรวงสาธารณสุขเข้าปฏิบัติงานในโรงพยาบาลภายในพื้นที่จังหวัดพังงาที่มูลนิธิชัยพัฒนาได้ช่วยเหลือในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร บ้านพักบุคลากร รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาทุนพระราชทานที่กำลังศึกษาอยู่ 36 ราย ในคณะวิชาต่างๆ ดังนี้ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ คณะอุตสาหกรรมการเกษตร คณะนิติศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะศึกษาศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะเศรษฐศาสตร์ เมื่อจบการศึกษาแล้ว นักศึกษาเหล่านี้จะได้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเองตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อไป
จากนั้น เสด็จฯ ไปยังห้องโถงอาคาร เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรโครงการความร่วมมือในการพัฒนาทักษะทางวิชาการให้แก่นักเรียนในโรงเรียนในเขตพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาจัดทำโครงการดังกล่าวร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ เพื่อพัฒนาศักยภาพความรู้ทางวิชาการให้แก่นักเรียนได้เรียนรู้เข้าใจทบทวนบทเรียนในแต่ละรายวิชาและเตรียมความพร้อมที่จะสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกลแบบสื่อสาร 2 ทาง นักเรียนและอาจารย์ผู้สอนสามารถซักถามและตอบข้อสงสัยได้ทันที อีกทั้งนักเรียนยังสามารถทบทวนการเรียนการสอนในภายหลังได้อีกด้วย โดยมีโรงเรียนนำร่อง 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนคุระบุรีชัยพัฒนาพิทยาคม อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โรงเรียนอุดมศาสน์วิทยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และโรงเรียนศรีฟารีดาบารูวิทยา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะจัดการเรียนการสอนที่เป็นการทบทวนบทเรียนในแต่ละรายวิชาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 และโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ จะจัดตารางเรียนในแต่ละวัน โดยออกอากาศส่งไปยังโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ซึ่งจะเรียนไปพร้อมกับโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วิชาที่เรียน ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราโชวาทผ่านทางระบบการเรียนการสอนทางไกลแก่ครูและนักเรียนด้วย
จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการวิจัยและพัฒนาเกาะบุโหลน อำเภอละงู จังหวัดสตูล โครงการวิจัยและพัฒนาเกาะบุโหลน เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่หมู่เกาะบุโหลน อำเภอละงู จังหวัดสตูล เนื่องจากราษฎรส่วนใหญ่มีปัญหาด้านสุขอนามัย โดยให้นักศึกษาแพทย์ พยาบาล และทันตแพทย์ เข้าศึกษาฝึกงานด้านสาธารณสุขและปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาและนักวิจัยจากสาขาวิชาต่างๆ เข้าร่วมดำเนินการด้านระบบสาธารณูปโภค ด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรม และด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
หมู่เกาะบุโหลน ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 8 เกาะ อยู่ในเขตตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 22 กิโลเมตร และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เกาะที่มีราษฎรอาศัยมีอยู่ 2 เกาะคือ เกาะบุโหลนดอน เป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก มีราษฎรชาวเล (อูรักลาโวย) อาศัยอยู่ 73 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง มีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างยากจน ส่วนเกาะบุโหลนเล เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีราษฎรอาศัยอยู่ 68 ครัวเรือน มีอาชีพทำประมง ค้าขาย และรับจ้าง มีรีสอร์ทของเอกชนและราษฎร ราษฎรมีฐานะความเป็นอยู่ดีกว่าเกาะบุโหลนดอน ทั้งสองเกาะมีโรงเรียนและมัสยิด ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก
การดำเนินงานที่ผ่านมา ได้มีการจัดทำฝายชะลอน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ป่าธรรมชาติบนเกาะบุโหลนเล และอบรมราษฎรให้รู้จักการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนและแนวปะการัง การจัดการขยะมูลฝอย การทำเส้นทางเดินธรรมชาติในป่าบนเกาะบุโหลนดอนและเกาะบุโหลนเล จัดทำพจนานุกรมภาษาอูรักลาโวยได้กว่า 200 คำ อนุรักษ์เพลงอูรักลาโวย โดยจัดทำเป็นโน้ตเพลงได้รวม 10 เพลง เพื่อนำไปถ่ายทอดให้แก่เยาวชนในเกาะบุโหลน การสร้างกลุ่มช่วยเหลือกันเองด้านสุขภาพเพื่อพยาบาลผู้ป่วยเบาหวานและความดันสูงซึ่งราษฎรบนเกาะเป็นกันมาก การพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล โดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ออกแบบระบบและโปรแกรมรองรับการสื่อสารทางไกลผ่านโรงพยาบาลละงู ซึ่งเป็นแม่ข่ายในการรับสัญญาณ โครงการพยาบาลประจำบ้าน การใช้ยาและสมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาศักยภาพการศึกษาของชุมชนเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน เช่น การอบรมช่างไฟฟ้า ช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็ก และการอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรให้แก่กลุ่มแม่บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์พัฒนาพืชจักรพันธ์เพ็ญศิริของมูลนิธิชัยพัฒนา ได้สนับสนุนพันธุ์แพะแบลคเบงกอลเพศผู้ เพื่อให้มีการพัฒนาสายพันธุ์แพะท้องถิ่นให้มีคุณภาพที่ดีต่อไป