วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักดอยตุงไปยัง ถนนบ้านป่าซางแสนสุดแดน – บ้านจะตี – ถนนบ้านผาจี ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อทรงเปิดป้ายชื่อถนนพระราชทาน “มหาจักรีดำเนิน” ถนนเส้นนี้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการปรับปรุง กองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการก่อสร้างเป็นระยะทาง 18.35 ก.ม. เพื่อช่วยเหลือราษฎร 7 หมู่บ้าน ประชากร 2,298 ราย ให้มีเส้นทางสัญจรได้อย่างปลอดภัย สามารถนำผลผลิตไปจำหน่ายได้สะดวก จากเดิมที่เป็นถนนลูกรัง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 เพื่อสร้างองค์ความรู้และหาแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมในการปลูกชาน้ำมันให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อขยายผลในพื้นที่เป้าหมายต่อไปในอนาคต อันจะเป็นการสร้างทางเลือกในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนให้แก่ราษฎร
ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมันที่อยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง มีพื้นที่เพาะปลูก 3,650 ไร่ มีต้นชาจำนวน 952,008 ต้น การดำเนินโครงการมีการกำหนดเขตพื้นที่ทำกินของราษฎร ส่งเสริมอาชีพที่หลากหลายเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ประชาชนในพื้นที่โครงการ พร้อมทั้งให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า และดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับป่า ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน โดยระหว่างทางได้ทอดพระเนตรแนวไม้ผล – ไม้ยืนต้น พระราชทานของโครงการ “ซอยนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมให้ชุมชนร่วมกันปลูกไม้ผล – ไม้ยืนต้น ในพื้นที่สาธารณะให้ราษฎรร่วมกันดูแล และใช้ประโยชน์จากไม้ยืนต้นเหล่านั้น
เมื่อเสด็จฯ ถึงแปลงปลูกชาน้ำมัน ได้ทอดพระเนตรแปลงชาน้ำมันที่ดีของบ้านพญาคา และแปลงชาน้ำมันที่ไม่ดีของบ้านหลีตาเหมย โดยมีราษฎรเจ้าของแปลงชาน้ำมันเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จฯ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน บ้านปูนะ เพื่อทอดพระเนตรการดำเนินงานส่งเสริมอาชีพเสริมให้กับราษฎร ในด้านการเลี้ยงสัตว์ และการปลูกไม้ผล ได้แก่ การส่งเสริมการเลี้ยงพ่อ‑แม่พันธุ์ไก่กระดูกดำ หมูเหมยซาน หมูป่า และเป็ดเทศ โดยในปี 2558 ทางโครงการได้ส่งเสริมอาชีพทั้งสิ้น 657 ครอบครัว สร้างรายได้กว่า 1,545,765 บาท หลังจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังแปลงไม้ผลพระราชทาน บ้านบูซอ เพื่อทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และทรงปลูกมะม่วงพันธุ์มหาชนก
จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังถนนซึ่งพระราชทานนามว่าถนน “เทพรัตนวิถี” เป็นการปรับปรุงถนนบ้านพญาไพรลิทู่-โครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน ปางมะหัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 5 ก.ม. เพื่อสนับสนุนโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรจำนวน 3 หมู่บ้าน ประชากร 515 ครัวเรือน รวม 3,347 คน ให้มีเส้นทางสัญจรได้สะดวก ปลอดภัย สามารถขนส่งผลผลิตจากการประกอบอาชีพได้
ต่อมา เสด็จพระราชดำเนินไปยัง “ถนนมอเตอร์ไซด์” ซึ่งเป็นถนนที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างเส้นทาง ระยะทาง 13.2 กิโลเมตร ราษฎรได้รับประโยชน์ทางตรงกว่า 203 ครอบครัว สำหรับใช้ในการขนส่งผลผลิตเมล็ดชาน้ำมันจากแปลงปลูกของราษฎรไปยังโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน ปางมะหัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งไปแปรรูปที่โรงงานผลิตน้ำมันชา ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนาก่อสร้างและบริหาร
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน บ้านปางมะหัน โดยมีคณะวิจัยชาน้ำมันโดยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จังหวัดนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ กราบบังคมทูลถวายรายงานผลการวิจัย “10 ปีงานวิจัย 10 ปีแห่งการพัฒนา” ซึ่งคณะวิจัย ได้เริ่มงานวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับชาน้ำมัน ตั้งแต่ปี 2547 โดยการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน เน้นการศึกษาในเรื่องของวิธีการปลูก การดูแลรักษา การป้องกันศัตรู และโรคต่างๆ ของต้นชาน้ำมัน การศึกษาคัดเลือกพันธุ์ชาน้ำมันที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการดูแลหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพผลผลิตเมล็ดชา สำหรับป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำมันชา ในศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ต่อมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กราบบังคมทูลรายงานภาพรวมผลการดำเนินงานการปลูกชาน้ำมัน ที่สร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพให้แก่ราษฎรในพื้นที่ โดยในปี 2558 โครงการชาน้ำมันฯ สร้างรายได้กว่า 13.93 ล้านบาท ให้แก่ราษฎร 685 ครอบครัว ที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน ยังเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมกว่า 35,019 ไร่ ทำให้ราษฎรเข้าถึงแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคตลอดปี และฟื้นคืนทรัพยากรในพื้นที่โครงการ