วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ อันเป็นหนึ่งในโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา ดังนี้
เวลา 8.30 น. เสด็จพระราชดำเนินยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ พระราชทานพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 (อ่านว่า หนึ่งร้อยห้า) จำนวน 892 ตัน กับ 900 กิโลกรัม ที่สะสมสำรองไว้ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ แก่ราษฎรที่ประสบภัยแล้งและอุทกภัยรวม 8,117 ราย เป็นราษฎรในจังหวัดสุรินทร์ 7 อำเภอ คือ อำเภอศีขรภูมิ อำเภอเขวาสินรินทร์ อำเภอสนม อำเภอท่าตูม อำเภอจอมพระ อำเภอรัตนบุรี อำเภอสำโรงทาบ ราษฎรในจังหวัดศรีสะเกษ 2 อำเภอ คือ อำเภอปรางค์กู่ อำเภออุทุมพรพิสัย และราษฎรในจังหวัดบุรีรัมย์ 2 อำเภอ คือ อำเภอสตึกและอำเภอนาโพธิ์พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย 63,392 ไร่
เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ที่พระราชทานแก่ราษฎรในวันนี้ เป็นผลผลิตของกลุ่มสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิชัยพัฒนา ที่มีความตั้งใจผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 อย่างประณีตน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำรองไว้เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน
โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ เกิดขึ้นจากการที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสำรองพันธุ์ข้าวหอมมะลิ ให้มีคงไว้ ในกรณีที่ประเทศมีภาวะฉุกเฉินหรือประสบภัยที่ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิประสบปัญหา ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่หาพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ดีมีคุณภาพมาทดแทนให้เกษตรกรได้ยาก
ในช่วงปลายปีพุทธศักราช 2555 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาพิจารณาดำเนินการผลิตพันธุ์ข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสำรองไว้เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ และต่อมาในปี 2556 มูลนิธิชัยพัฒนาตั้งศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ขึ้น เพื่อผลิตพันธุ์ข้าวพระราชทาน โดยจะผลิตข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105
ในปัจจุบัน มีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ใน 3 จังหวัด คือ ในจังหวัดสุรินทร์มีกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่ม ใน 6 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอจอมพระ อำเภอศีขรภูมิ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอสำโรงทาบ และอำเภอสังขะ กลุ่มเกษตรกรในอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ 1 กลุ่ม และราษฎรอำเภอราศีไสล จังหวัดศรีสะเกษ อีก 1 อำเภอ
ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2493 – 2494 นายสุนทร สีหะเนินอดีตพนักงานข้าวของกรมการข้าว ประจำอยู่ที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับมอบหมายให้ออกไปเก็บรวบรวมพันธุ์ข้าวในภาคตะวันออก จึงได้คัดเก็บรวงข้าวจำนวน199 รวง ซึ่งเป็นข้าวที่มีความหอม เรียกกันว่า ‘ข้าวหอมมะลิ’ มาระบุหมายเลขของรวงที่เก็บมา แล้วส่งไปปลูกเพื่อคัดพันธุ์ให้บริสุทธิ์ ที่สถานีทดลองข้าวโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2500 เมื่อได้พันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ผ่านการคัดพันธุ์แล้ว ก็นำไปปลูกทดลองและทดสอบในพื้นที่ปลูกข้าวภาคต่างๆ พบว่า ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าวหอมมะลิที่เป็นรวงหมายเลขที่ 105 เป็นรวงที่ให้ผลผลิตดี ในพื้นที่ดินทรายของภาคอีสาน ได้เมล็ดข้าวเรียวยาว สมบูรณ์ และยังคงความหอมเหมือนข้าวที่ปลูกจากแหล่งที่ปลูกเดิม
ดังนั้น ในการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน มูลนิธิชัยพัฒนาจึงมีความตั้งใจในการที่จะให้การผลิต เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ผลิตพันธุ์ข้าวด้วยความประณีต ให้ปราศจากพันธุ์ปนและข้าวเมล็ดแดง เป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ดีและมีคุณภาพให้ได้มากที่สุด
ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ ของมูลนิธิชัยพัฒนาทุกกลุ่มจะต้องตั้งคณะกรรมการบริหารงานภายในกลุ่ม เพื่อดำเนินกิจกรรมของกลุ่มให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด มีคณะกรรมการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว ดูแลกันตั้งแต่ในแปลงนาจนถึงการเก็บเกี่ยว การปลูกให้ปลูกโดยวิธีปักดำเท่านั้น และต้องเก็บเกี่ยวด้วยมือหรือรถเกี่ยวข้าวที่สะอาด เพื่อป้องกันการปนของข้าวพันธุ์อื่นหรือข้าวเมล็ดแดง
มูลนิธิชัยพัฒนาจะมีการตรวจแปลงนาและตรวจสอบพันธุ์ข้าวที่เก็บเกี่ยวขึ้นมาจากแปลงนา มีกรรมการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว คือ มีเจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ประธานกลุ่ม สมาชิกกลุ่ม และเจ้าของแปลงนา ร่วมกันตรวจสอบ
การตรวจสอบจะสุ่มตัวอย่างข้าว 1 กิโลกรัม เพื่อวัดความชื้นและตรวจสอบหาข้าวปน ทดสอบเช่นนี้ 2 ครั้ง โดยราคาพันธุ์ข้าวที่ได้มาตรฐานเข้าเกณฑ์เป็นข้าวพันธุ์พระราชทานของมูลนิธิชัยพัฒนาจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นจากราคาข้าวของกรมการค้าภายใน เพื่อเป็นรางวัลในการผลิตข้าวอย่างประณีตและมีคุณภาพ
การเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดสุรินทร์ในครั้งนี้ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ บ้านเกาะแก้ว ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ ซึ่งเพิ่งจะเข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
ทรงมีพระราชปฏิสันถารและมีรับสั่งให้กำลังใจแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องด้วยทรงตระหนักว่า การผลิตพันธุ์ข้าวที่ดีมีคุณภาพ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความมานะอดทน ต้องมีความละเอียดประณีตในการผลิตทุกขั้นตอน นับแต่การเตรียมดิน การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ การปลูกด้วยการปักดำ การดูแลเอาใจใส่ในการกำจัดวัชพืชและข้าวปน รวมทั้งการใส่ใจในการเก็บเกี่ยวและการขนส่ง เพื่อให้พันธุ์ข้าวมีคุณภาพดี จนกระทั่งขั้นตอนสุดท้ายที่ส่งมอบมายังมูลนิธิชัยพัฒนา
นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดหาน้ำช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน โดยให้ปรับปรุงสระน้ำในแปลงนาแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการทุกราย หากราษฎรรายใดไม่มีสระน้ำสำรองใช้ในการเกษตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการขุดบ่อให้ตามความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่
ในปีที่แล้ว มูลนิธิชัยพัฒนาได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยได้สำรวจแปลงนาของราษฎรที่เข้าร่วมโครงการ วางแผนการปรับปรุงสระหรือขุดสระให้เป็นไปตามความประสงค์ของราษฎรเจ้าของที่นาและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ได้ปรับปรุงและขุดสระน้ำในแปลงนาของกลุ่มผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน บ้านหนองไผ่ ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ บ้านกุง ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ บ้านกันโจรง ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ และบ้านกระเบื้อง ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี ไปแล้ว 146 สระ และได้พระราชทานบ่อบาดาลอีก 2 บ่อ
ในปี 2560 นี้ มูลนิธิชัยพัฒนามีแผนปรับปรุงและขุดสระน้ำในแปลงนาของกลุ่มผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน บ้านโคกไทรงาม ตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ บ้านฮ็อง ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกาะแก้ว ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ และบ้านหนองโดน ตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 188 สระ และสระสาธารณะในวัดโครไทร ตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ อีก 1 สระ โดยได้ขุดไปแล้ว134 สระ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2560)
รวมสระน้ำพระราชทานในปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 335 สระ และบ่อน้ำบาดาล 2 บ่อ
นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานพันธุ์ปลานิลจิตรลดา จากโครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านเกาะกา จังหวัดนครนายก และโครงการ ‘รวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม’ ของมูลนิธิชัยพัฒนา ในตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ปล่อยสู่สระน้ำพระราชทานในแปลงนา เพื่อเป็นแหล่งอาหารเพิ่มอีกทางหนึ่ง
โครงการ ‘รวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม’ เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2554 ประเทศไทยได้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ราษฎรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน บ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกทำกินถูกน้ำท่วมจนราษฎรไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดังปกติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินงานโครงการ ‘รวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม’ เพื่อเตรียมการตั้งรับอุทกภัยให้กับชุมชนที่ประสบภัย
หลักการของโครงการ ‘รวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม’ คือจะสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง จัดหาพื้นที่อพยพให้กับผู้ประสบภัย ชุมชนเตรียมเสบียงอาหาร มียุ้งเก็บข้าวหรือโรงสีข้าวขนาดเล็ก ปลูกผัก เลี้ยงปลาและสามารถเพาะพันธุ์ปลาได้ และสามารถผลิตน้ำสะอาดไว้ดื่มเอง เพื่อให้ราษฎรพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้
โครงการ ‘รวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม’ ที่ตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นโครงการนำร่อง ในช่วงเวลาปกติ จะผลิตพันธุ์ปลานิลจิตรลดาจำหน่าย และนำส่งเข้าร่วมเป็นพันธุ์ปลาพระราชทานแก่ราษฎรในพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งแปรรูปเป็นปลานิลจิตรลดาแดดเดียว ส่งขายร้านจันกะผักของมูลนิธิชัยพัฒนา อีกด้วย
ในการพระราชทานความช่วยเหลือราษฎรในเรื่องการเกษตร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิชัยพัฒนา โดยศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทำโครงการ ‘ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน’ พระราชทานกิ่งพันธุ์ไม้ผลพันธุ์ดี ให้ชุมชนนำไปปลูกริมถนนและที่สาธารณะในหมู่บ้าน กิ่งพันธุ์ที่พระราชทานมีอาทิเช่น มะม่วง ขนุน ฝรั่ง มะกอก มะขาม น้อยหน่า และชุมชนที่ได้รับพระราชทานกิ่งพันธุ์จะร่วมด้วยช่วยกันดูแลต้นไม้เหล่านี้ให้เจริญเติบโตให้ผลผลิตแก่คนทั้งในหมู่บ้านและคนทั่วไปแบ่งปันกันบริโภคตามพระราชประสงค์
มูลนิธิชัยพัฒนา ได้ดำเนินการสนองพระราชดำริในอันที่จะเตรียม กิ่งพันธุ์ไม้ผลพระราชทาน โดยมีโครงการต่างๆของมูลนิธิชัยพัฒนาผลิตกิ่งพันธุ์เพื่อส่งมอบให้ชุมชน ดังนี้
ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย
ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสระบุรี
โครงการผลิตกิ่งพันธุ์ไม้ผลพระราชทาน บ้านชวดบัว
โครงการพัฒนาป่าชุมชนบ้านอ่างเอ็ดมูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดจันทบุรี
โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา(สวนผลไม้ สวนปาล์ม ป่าชุมชน) จังหวัดระยอง
โครงการสาธิตปลูกพืชในดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครราชสีมา
นอกจากนี้ มูลนิธิชัยพัฒนายังได้ส่งเสริมราษฎรให้เข้าร่วมเป็นผู้ผลิตพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์พระราชทาน โดยศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จะเป็นผู้ให้ความรู้ในขั้นตอนและวิธีการผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นพันธุ์พระราชทานคุณภาพที่ดีแก่ราษฎรต่อไป
ในวันนี้ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการผลิตกิ่งพันธุ์ไม้ไม้ผลพระราชทานโดยชุมชน ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
นายวิเชียร บริบาล กำนันตำบลระแงง ได้ปลูกไม้ผลหลายหลากชนิดไว้บนผืนที่ดินของตนเอง อาทิ ขนุน มะม่วง กระท้อน มะยงชิด เงาะ มังคุด ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ เป็นต้น ผลไม้ที่ปลูกได้รับการดูแลอย่างดี และให้ผลที่มีรสชาติอร่อย จึงแจ้งความประสงค์มายังมูลนิธิชัยพัฒนา ขอร่วมทำงานสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผลิตกิ่งพันธุ์ไม้ผลจากต้นพันธุ์ที่มีอยู่ โดยได้ส่งบุตรชายไปฝึกงานการขยายพันธุ์ไม้ผลที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ได้เริ่มผลิตแล้ว คาดว่าจะร่วมเป็นกิ่งพันธุ์ไม้ผลพระราชทานได้ในฤดูฝนที่จะมาถึงนี้
ทรงปล่อยปลานิลจิตรลดาลงในสระหนองหารที่เป็นสระน้ำสาธารณะของตำบลระแงง จำนวน 100,000 ตัว
และได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการผลิตไก่พื้นบ้านและเป็ดพระราชทานโดยชุมชน บ้านขอนแก่น ตำบลหนองฮะ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ด้วย
นายเหลียน ทองสะอาด ประธานกลุ่มผู้ผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน บ้านขอนแก่นเป็นผู้ที่มีความเป็นผู้นำ และมีความขยันขันแข็ง เมื่อสมาชิกกลุ่มได้รับพระราชทานไก่พื้นเมืองจากโครงการส่งเสริมอาชีพของมูลนิธิชัยพัฒนา และเลี้ยงไก่ได้เป็นอย่างดี ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริจึงชักชวนให้ตั้งกลุ่มผลิตไก่พื้นบ้านพระราชทานขึ้น และต่อมาได้นำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์เป็ดไข่มามอบให้เพื่อให้ผลิตพันธุ์เป็ดไข่พระราชทาน โดยมีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นที่ปรึกษา ปัจจุบันเริ่มผลิตพันธุ์ไก่และพันธุ์เป็ดไข่พระราชทานได้สม่ำเสมอแล้ว
จากนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 บ้านกุง ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานการผลิตและการเก็บสำรองเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ จังหวัดสุรินทร์ อีก 4 กลุ่ม ที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ คือ
กลุ่มราษฎรบ้านโคกไทรงาม ตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ
กลุ่มราษฎรบ้านกระเบื้อง ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี
กลุ่มราษฎรบ้านกันโจรง ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
กลุ่มราษฎรบ้านฮ็อง ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมือง
และกลุ่มราษฎรบ้านกุง ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ
ในวาระนี้ ได้พระราชทานของที่ระลึกแก่สมาชิกกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ บ้านกันโจรง ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ ที่สามารถผลิตพันธุ์ข้าวผ่านเกณฑ์ของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพัน์เพ็ญศิริ เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทานได้ทั้งกลุ่ม
ทางด้านหัตถกรรม ในปี 2556 ทรงมีพระราชดำริให้ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ประสานกรมหม่อนไหมเข้าส่งเสริมการทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ เช่น ย้อมด้วยมะเกลือ หว้า แก่นเข ซังข้าวโพด เพกา ขนุน และคราม เป็นต้น ปัจจุบันมีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหม่อนไหมไทรงาม สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ ซึ่งก่อนหน้านี้ทอผ้าไหมด้วยไหมย้อมสีสังเคราะห์ และในปีที่แล้ว กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’บ้านกุง ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ ได้ขอพระราชทานเข้าร่วมโครงการ และได้ทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติมาจัดแสดงถวายทอดพระเนตรด้วย
นอกจากนี้เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินในเดือนตุลาคมปี 2558 ได้มีรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนา พัฒนาการทอเสื่อกกและการทำผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกแก่ราษฎรบ้านหนองไผ่ ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับอาจารย์และนักศึกษา สาขาวิชาการออกแบบสิ่งทอ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ทำโครงการพัฒนาการออกแบบอย่างยั่งยืนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากต้นกก โดยใช้หลักการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างปราชญ์ท้องถิ่น นักศึกษา อาจารย์ มาช่วยกันพัฒนาการย้อม การพิมพ์ การตกแต่งผิวหน้า(surface design) การทอ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ นับเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากต้นกกที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาและวัฒนาธรรมของท้องถิ่นไว้
ในการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน ของราษฎรที่เข้าร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา ในการคัดเลือกพันธุ์ข้าวเพื่อมาเป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน มีเกณฑ์มารตฐานสูง เนื่องจากพันธุ์ข้าวที่พระราชทานแก่ราษฎรผู้ประประสบภัยจะต้องเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ บ่มเพาะเป็นต้นกล้าที่แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่มีพันธุ์อื่นปะปน จึงมีราษฎรที่พลาดจากมาตรฐานพันธุ์ข้าวพระราชทานของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ
ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงตระหนักว่า ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งใจ ทุ่มเท และมุ่งมั่นที่จะผลิตพันธุ์ข้าวให้ประณีต แต่อาจด้วยเกณฑ์กำหนดที่สูงของพันธุ์ข้าวพระราชทาน จึงทำให้มีผู้ที่ได้ผลผลิตไม่เข้าเกณฑ์ จึงมีรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนา ซื้อพันธุ์ข้าวที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน มาสีเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่าย
มูลนิธิชัยพัฒนาได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จัดซื้อข้าวของสมาชิกโครงการที่ไม่ผ่านเกณฑ์เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทาน มาสีบรรจุเป็นข้าวสารสำหรับบริโภค โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า ข้าวหอมมะลิ ‘จันกะผัก’
ข้าวหอมมะลิ ‘จันกะผัก’ จึงเป็นข้าวสารที่มีคุณภาพ ผลิตด้วยความประณีต จากเกษตรกรที่เข้าร่วมผลิตพันธุ์ข้าวพระราชทาน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ข้าวหอมมะลิ‘จันกะผัก’ เป็นข้าวต้นหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ มีความนุ่มนวล อร่อย และหอมกรุ่น มีวางขายที่
ร้านจันกะผัก สาขาเชียงราย สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สาขามูลนิธิชัยพัฒนา พระราม 8
ร้านภัทรพัฒน์ทุกสาขา ร้านดอยคำทุกสาขา และท๊อปส์ ซุปเปอร์มาเก็ต
และผู้ที่สนใจสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ
ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ได้พระราชทานขวัญและกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ แก่ราษฎรที่เข้าร่วมผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทาน ให้เกิดพลัง ความมานะ ตั้งใจ ใส่ใจ เพื่อให้พันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทานเป็นพันธุ์ข้าวคุณภาพดี สำหรับช่วยเหลือราษฎรชาวไทยที่ประสบภัย มีความเดือดร้อนและเผชิญความทุกข์ยาก
และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 แก่ราษฎรทั้งที่ประสบภัยแล้งและราษฎรที่ประสบอุทกภัยในฤดูกาลปลูกข้าวที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูให้ก้าวเดินต่อไปในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ด้วยเมล็ดพันธุ์อันเป็นมงคลยิ่ง
นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา ส่งเสริมอาชีพด้านต่างๆ ทั้ง การผลิตพันธุ์พืช ผลิตพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงปลานิลจิตรลดา เป็ด และไก่ เพื่อบริโภค การทำหัตถกรรมการทอและเย็บกระเป๋าเสื่อกก และการทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือนอีกทางหนึ่ง
และด้วยความมุ่งมั่นพระราชหฤทัยที่จะให้ประเทศไทยมีพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ดี มีคุณภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา ส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้าใจและมีความเอาใจใส่ในการทำนาอย่างละเอียดประณีต เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ปราศจากข้าวอื่นปลอมปน เป็นต้นพันธุ์ที่ดีและมีคุณค่า เพื่อให้ประชาชนคนไทยมีพันธุ์ข้าวที่มีชื่อเสียงคงอยู่สืบต่อไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรของชาวไทยให้มีความมั่นคงด้านอาหาร นับเป็นการสร้างความมั่นคงภายในประเทศอีกทางหนึ่ง